กรอบรูป

1

กรอบรูปไม่ได้เป็นเพียงแค่กรอบไม้หรือโลหะที่ใช้สำหรับแขวนรูปภาพ แต่มันเปรียบเสมือนประตูสู่ความทรงจำ กรอบรูปช่วยเก็บรักษาภาพถ่ายอันล้ำค่า ปกป้องภาพจากความเสียหาย และช่วยให้นึกย้อนถึงช่วงเวลาดีๆ ในอดีต

ประวัติของกรอบรูป

2

กรอบรูปมีมานานหลายศตวรรษ หลักฐานการใช้กรอบรูปที่เก่าแก่ที่สุดพบในอียิปต์โบราณ กรอบรูปในสมัยโบราณทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน กระดูก และดินเผา กรอบรูปเหล่านี้มักมีการแกะสลักลวดลายที่สวยงาม

ในช่วงยุคกลาง กรอบรูปเริ่มมีบทบาทสำคัญในศาสนาคริสต์ กรอบรูปถูกใช้เพื่อประดับประดาภาพวาดทางศาสนา และช่วยให้ผู้คนจดจ่อกับการสวดมนต์

ในศตวรรษที่ 19 กรอบรูปเริ่มมีราคาถูกลงและเป็นที่นิยมมากขึ้น ผู้คนเริ่มใช้กรอบรูปเพื่อประดับตกแต่งบ้าน และเก็บรักษาภาพถ่ายของครอบครัว

ประเภทของกรอบรูป

3

กรอบรูปมีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัสดุ รูปแบบ และขนาด

  • วัสดุ: กรอบรูปมีหลายวัสดุ เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก อะคริลิก และแก้ว กรอบรูปไม้เป็นกรอบรูปที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีหลายสี หลายสไตล์ และมีความทนทาน
  • รูปแบบ: กรอบรูปมีหลายรูปแบบ เช่น กรอบรูปเรียบง่าย กรอบรูปแบบคลาสสิก กรอบรูปแบบวินเทจ และกรอบรูปแบบโมเดิร์น กรอบรูปแบบเรียบง่ายเหมาะกับการตกแต่งบ้านทุกสไตล์ กรอบรูปแบบคลาสสิกเหมาะกับการประดับตกแต่งบ้านสไตล์ดั้งเดิม
  • ขนาด: กรอบรูปมีหลายขนาด ขึ้นอยู่กับขนาดของภาพถ่าย กรอบรูปขนาดเล็กเหมาะกับการวางบนโต๊ะทำงาน กรอบรูปขนาดใหญ่เหมาะกับการแขวนบนผนัง

การเลือกกรอบรูป

4

  • ขนาด: เลือกกรอบรูปที่มีขนาดพอดีกับภาพถ่าย ไม่ควรเลือกกรอบรูปที่เล็กหรือใหญ่เกินไป
  • วัสดุ: เลือกกรอบรูปที่มีวัสดุที่ทนทาน และเหมาะกับสไตล์การตกแต่งบ้าน
  • รูปแบบ: เลือกกรอบรูปที่มีรูปแบบที่ชอบ และเหมาะกับภาพถ่าย
  • สี: เลือกกรอบรูปที่มีสีที่เข้ากับสีของผนัง หรือสีของเฟอร์นิเจอร์

กรอบรูปเป็นของขวัญที่ล้ำค่า เหมาะกับทุกโอกาส กรอบรูปสามารถเป็นของขวัญวันเกิด ของขวัญวันครบรอบ ของขวัญแต่งงาน หรือของขวัญขึ้นบ้านใหม่

กรอบรูปไม่ได้เป็นเพียงแค่กรอบไม้หรือโลหะ แต่เป็นประตูสู่ความทรงจำ กรอบรูปช่วยเก็บรักษาภาพถ่ายอันล้ำค่า ปกป้องภาพจากความเสียหาย และช่วยให้นึกย้อนถึงช่วงเวลาดีๆ ในอดีต